ทริปนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศจากป่าๆ เป็นรีสอร์ทบ้างครับ หาที่ กางเต๊นท์วังน้ำเขียว เส้นทางที่ไป จะเป็นเส้นจากหน้าเข้าใหญ่ฝั่งปากช่อง เลี้ยวซ้าย ผ่านเขื่อนลำพระเพลิง ยังไม่ไปถึงเส้น 304 นะครับ มีรีสอร์ทหลายที่ที่บริการให้แค้มปิ้ง ใครจะไปเที่ยววังน้ำเขียวช่วงนี้ เอาเต๊นท์ติดรถไปด้วยเลยครับ รีสอร์ตเต็มก็ไม่ต้องห่วง
แต่เรื่องราคา สำหรับคนพักตามอุทยานเป็นปกติแล้ว อาจต้องทำใจครับ ผมกางเต๊นท์จ่าย 200 ต่อคน ปกติตามอุทยาน ก็ 30 บาทต่อคน แต่คนพักรีสอร์ท 1700 ต่อห้อง ต่อสองคน เอิ๊กๆ แพงกันจัง ก็เข้าใจครับ
กางเต๊นท์ที่ A Cup of love บรรยากาศยังกับเมืองนอกเลย
การจัดร้านสวยจริงครับ แต่ดูจะไม่เข้ากับรถของผมสักเท่าไหร่ มาผิดที่จริงๆ
ใกล้ๆ กัน ขึ้นเนินไปอีกหน่อย ก็จะเป็นที่กางเต๊นท์บริการโดยครัวอิ่มสุข ตอนเช้าๆ สามารถเดินออกกำลังกาย มานั่งจับกาแฟที่ a cup of love ได้ครับ ที่นี่คิดค่ากางเต๊นท์ 100.- เอาเต๊นท์ไปเอง คิด 50.- คุยถูกคอกับเจ้าของร้าน อาจไม่คิดตังค์ค่าเหล้า เคยโดนมาแล้ว
ส่วนที่ กางเต๊นท์ของผม คืนนั้น ผมเลือกที่เขื่อนลำพระเพลิง ก็ไม่เลวครับ ใครว่ามากางเต๊นท์ลำบาก เห็นรถผมแล้วจะเปลี่ยนใจ รถมันกว้าง ยกโซฟาติดรถมาสักตัวสองตัว จะเป็นไรไป นั่งสบายๆ
บรรยากาศยามเช้ารอบเขื่อน มีเรือแคนูให้บริการ มีจักรยานให้ปั่น สำหรับคนไปเป็นคู่แล้ว ดูได้อารมณ์จริงๆ ส่วนผมขอเลือกนั่งเงียบๆ จิบบรรยากาศมุมนี้คนเดียวยามเช้า มองพวกมาเป็นคู่แล้วมันอิจแา ดูธรรมชาติดีกว่า
นอกจากรีสอร์ทแล้ว ก็ยังมีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ คลองปลากั้ง ให้พักแรมในราคาแบบเบาๆ ให้เลือกเช่นกัน แต่ต้องรีบกันหน่อย ถ้าหลังจากนี้ (ผมไปวันที่ 6 พ.ย. 53 ที่ผ่านมา) ความเขียวอาจไม่เหลือแล้ว
ห้องน้ำครับ นอกจากห้องน้ำแบบมิดชิดแล้ว ก็มีแบบโอเพ่น เหอๆๆ ระหว่างมีคนเข้าใช้บริการ สาวๆ ก็อย่าเผลอเดินผ่านก็แล้วกัน
จบทริปนี้ครับ ดู ภาพท่องเที่ยว วังน้ำเขียว แบบเต็มที่นี่ครับ