เส้นทางจากตัว อ.แม่สะเรียงไปเชียงใหม่ ถนนดีครับ เพราะเป็นเส้นหลักที่คนใช้กันมาก วันนั้นเดินทางจากแม่สอดมาแม่สะเรียง หากจะเดินทางผ่านเส้นนี้ โดยเริ่มต้นจากแม่สอด ต้องเผื่อเวลาไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงขึ้นไปนะครับ เพราะทำเวลาไม่ได้เลย โค้งอันตรายเยอะ  การเดินทางวันนั้นออกจากแม่เมยประมาณสี่โมงเย็น ร่วม 2 ทุ่มถึงแม่สะเรียง ไม่อยากจะเชื่อว่าจะใช้เวลามากขนาดนั้น เพราะดูจากแผนที่ไม่ไกลมาก ที่น่ากลัวก็คือเปลี่ยวมากครับ เจอรถสวนกันมาไม่กี่คัน เพราะเวลานั้นก็จะมืดแล้ว

เส้นทางจาก อ.แม่สอด ไป อ.สบเมย ถนนดี ไม่เปลี่ยว แต่จาก อ.สบเมยไปแม่สะเรียง ค่อนข้างเปลี่ยวมาก ดูจากแผ่นที่แล้วไม่ไกล แต่จากแม่เมยไปแม่สะเรียง ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง ทำความเร็วได้ไม่เกิน 70 เพราะโค้งเยอะและขึ้นเนิน? เดายากว่าจะมีรถสวนมาหรือไม่ และเมื่อลงเนินแล้ว ก็เดายากอีกนั่นแหละว่าจะเจอโค้งซ้ายหรือขวา วิ่งเร็วๆ มีโอกาสหลุดโค้ง ถ้าหลังบ่าย 3 ไปคันเดียว รถไม่พร้อม ไม่ควรขับ เพราะเปลี่ยวมากๆ

แม่น้ำเมย กั้นชายแดนไทยพม่า จากภาพฝั่งตรงข้าม ก่อนโดนพม่ากวาดล้าง เดิมจะเป็นเมืองหลวงของชาวกะเหรี่ยง ซึ่งมีความเจริญมากเพราะเป็นเมืองท่าค้าขาย แต่ตอนนี้เป็นเมืองร้าง ไม่มีผู้คนแล้ว หลังจากโดนพม่าถล่มเละ

พะเยาเหมือนเป็นเมืองที่ต้องผ่าน มีเสน่ห์ ต้องแวะต้องจอด มาแล้วก็เหมือนมีอะไรดลใจให้มาอีก เคยมาที่นี่ครั้งแรกตอนอยุ่ ม 5 อาจารย์สุดที่รัก ย้ายจากบุรีรัมย์มาที่นี่ก็เลยตามมาส่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เดินทางไกลขนาดนี้ ปกติไม่เคยไปไหนเลย แม้แต่ตัวจังหวัดที่ห่างบ้านเกิดเพียง 44 กิโล ก็ยังไม่เคยไป ตั้งแต่เกิดจนอายุ 16-17 ไม่เคยเดินทางไปไหนไกลเกิน 10 กิโลเมตร คราวนี้ไปไกลมากๆ ขากลับก็นั่งรถทัวกลับคนเดียว นั่งจากพะเยาเข้ากทม แล้วจากกทมกลับบุรีรัมย์

ผมเป็นคนที่ไม่ชอบอากาศหนาว ปกติก็จะขึ้นเหนือเฉพาะหน้าร้อน แต่ทริบนี้เพื่อนๆ Need เอาก็เอา ภูชี้ฟ้าหนาวจริงๆ ครับ ไม่ปลื้มเลย

แต่วิวสวย เพราะเป็นคนชอบภูเขาอยู่แล้ว ก็โอเค หนาวทรมานพอสมควร แต่เจอบ่อยๆ คงไม่ไหว ได้ที่พักรีสอร์ทก่อนขึ้นภู ที่นี่ให้บริการเพียงปีละประมาณ 4-5 เดือนเท่านั้น แล้วก็ลงไปทำไร่ทำสวนข้างล่าง ไม่ต่างอะไรกับรีสอร์ทแถววังน้ำเขียวเลย ช่วงคนเที่ยวจะเป็นช่วงหน้าหนาวเป็นส่วนใหญ่ แต่ช่วงเวลาแค่นั้น ก็ทำเงินไม่น้อย เหมือนการหาเงินในช่วงปลายปีกับ amazon เลยนะเนี่ย