อยู่คนเดียวระวังจิต ที่ต้องระวังเพราะจิตอาจฟุ้งซ่าน โดยเฉพาะการที่ต้องกางเต็นท์ในป่าคนเดียวนี่มันสุดๆ จริงๆ คิดอะไรต่อมิอะไรไปต่างๆ นานา ส่วนการอยู่กับมิตรก็ต้องระวังคำพูด คำพูดแย่ๆ ทำให้เสียเพื่อนกันมาเยอะแล้วจริงๆ
ความเงียบทำให้คนเกิดความกลัว โดยเฉพาะการกางเต็นท์ในป่า หรือในอุทยาน เพราะแม้จะมีเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้มาเดินตรวจตราตลอดเวลา ส่วนใหญ่นั่งประจำในสำนักงาน การกางเต็นท์ในอุทยานบางแห่งอย่างเขาใหญ่ กลางคืนจะมีสัตว์ป่าออกหาเิกิน เช่น กวาง หมูป่า เม่น หรืออาจจะมีสัตว์ใหญ่อย่างช้าง ออกมาบ้าง
เมื่อต้องอยู่ในป่า ความเงียบอาจจะให้คนกลัว แต่หากเรียนรู้ความเงียบ จนเข้าใจแล้ว ก็จะพบว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ลองนั่งเงียบๆ สงบจิตใจ ทำสมาธิ พอจิตเริ่มนิ่ง ก็จะพบว่า จิตเรานั้นสามารถสัมผัสเสียงของสัตว์ป่า เสียงแมลง เสียงต่างๆ ได้สารพัด หาจะมีอะไรเข้ามาใกล้เต็นท์ ก็จะรู้ได้ทันที ถ้าเป็นสัตว์ใหญ่หรือคนเดินผ่าน แมลงก็จะหยุดร้อง แต่จะหนียังงัยล่ะ ถ้าเป็นช้าง ก็ห้ามเปิดไฟ ห้ามส่งเสียง ถ้าเค้าไม่อารณ์เสียจริงๆ หรือเราไม่ได้เป็นคู่กรณีที่ไปแกล้งเค้า ก็ไม่ยุ่งกับเราครับ
ณ เวลาและสถานการณ์แบบนั้น จิตที่เงียบสงบ ช่างมหัศจรรย์จริงๆ เราสามารถสัมผัสทิศทางที่มาของเสียงได้เร็วมาก ผมไปกางเตนท์จะอยู่ยาว เกินครึ่งเดือน ช่วงวันธรรมดา คนก็กลับกันหมดแล้ว บางที่เคยอยู่คนเดียว พอดึกๆ ก็เริ่มหลอน
เสียงอะไรต่อมิอะไรรอบตัว ดังไปหมด อาศัยทำสมาธิหรือพยายามรวบรวมจิตใจให้สงบให้ได้ เราก็จะได้ยินเสียงรอบตัวชัดแจ๋วเลย
แต่หากควบคุมจิตให้สงบไม่ได้ จิตก็จะหลอกหลอนเราอย่างแรง
จิดเรานั้น ไปเร็ว มาเร็วมาก ไวกว่าเสียงและแสง เมื่อจิตไปเร็ว พฤติกรรมอย่างอื่นก็จะเร็วตามไปด้วย การฝึกจิตเพื่อให้สามารถควบคุมจิตให้ได้นั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญ และวิธีฝึกเพื่อควบคุมจิต ก็คือการฝึกควบคุมสติให้คอยกำกับจิตอีกที พระท่านแนะนำการเดินจงกรมครับ